รายงานสถานการณ์ COVID-19 จังหวัดชลบุรี
วันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันรายใหม่ RT-PCR จำนวน 499 ราย ผู้เข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 ATK 2,826 ราย
ณ วันที่ 28 เมษายน 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม 995,432 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 10,242 คน (อัตราป่วย 1028.90 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 11 ราย (1.11 ต่อแสนประชากร) ใส่ท่อหายใจ 7 ราย (0.70 ต่อแสนประชากร) ปอดอักเสบ 21 ราย (2.11 ต่อแสนประชากร)
มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 1,929,365 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 7,351 คน (อัตราป่วย 381.01 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 38 ราย (1.97 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 32 ราย (1.66 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 32 ราย (1.66 ต่อแสนประชากร)
ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม 136,591 คน และไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก 263,117 คน รวม 399,708 คน ในเดือนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไม่ครบและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 8,915 คน (อัตราป่วย 2230.38 ต่อแสนประชากร), เสียชีวิต 70 ราย (17.51 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 41 ราย (10.26 ต่อแสนประชากร) , ปอดอักเสบ 65 ราย (16.26 ต่อแสนประชากร)
วันนี้พบผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจรายใหม่ 3 ราย
(รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2564,
และอีกสองรายไม่พบประวัติการรับวัคซีน)
ผู้ป่วยปอดอับเสบรายใหม่ 1 ราย
(พบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2564)
ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 9 ราย (รายที่หนึ่งอายุ 67 ปี, รายที่สองอายุ 62 ปี, รายที่สามอายุ 52 ปี, รายที่สี่อายุ 40 ปี, รายที่ห้าอายุ 91 ปี, รายที่หกอายุ 90 ปี, รายที่เจ็ดอายุ 58 ปี, รายที่แปดอายุ 87 ปี, รายที่เก้าอายุ 88 ปี) สาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตคือ เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง ไขมันในเลือดผิดปกติ โรคปอด
(รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 19 เม.ย 2565,
รายทีสองพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2564,
รายที่สามพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2564,
รายที่สี่พบประวัติการรับวัคซีนหนึ่งเข็มเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2564,
และอีกห้ารายไม่พบประวัติการรับวัคซีน)
ดังนั้นการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ โดยเฉพาะเข็มที่สาม ซึ่งเป็นเข็มกระตุ้นที่ผู้ทีอาศัยในจังหวัดชลบุรียังไม่ได้รับการฉีดจำนวนมาก การรับวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรีที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ยังมีอัตราอาการรุนแรงและเสียชีวิตมากมาโดยตลอด ขอความร่วมมือให้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นครบตามเกณฑ์
ขณะนี้มีการระบาดเป็นวงกว้างทั้งจังหวัดชลบุรี
ร้านอาหารจำหน่ายสแอลกอฮอล์ ต้องคัดกรองลูกค้าด้วย ATK ทุกคน
ขณะนี้เริ่มมีการระบาดในสถานประกอบการจำนวนมาก พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเคร่งครัดในมาตรการองค์กร
1. เลิกงานไม่สังสรรค์
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆกัน
สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ
การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม
ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ขิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้
ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ่นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองไม่ได้ และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี
ค้นให้ตรงเป้า เฝ้าให้ตรงจุด ร่วมใจฉีดวัคซีน สู่โรคประจำถิ่น
1. ค้นให้ตรงเป้า ผู้ที่มีอาการไข้หวัด ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่ได้วัคซีนไม่ครบ มีโอกาสเสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ต้องได้รับการตรวจคัดกรองด้วย ATK
2. เฝ้าให้ตรงจุด สถานที่ที่มีกลุ่มเปาะบาง เสี่ยงค่อความรุนแรงหรือเสี่ยงต่อการควบคุมการระบาดได้ยาก หากเกิดการระบาดขึ้น ต้องได้รับการคัดกรองด้วยATK สม่ำเสมอ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานพักพิงคนพิการ ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เป็นผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว
3. ร่วมใจฉีดวัคซีน วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามมัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประตำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน
4. สู่โรคประจำถิ่น เชื้อโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง และเข้าเป็นโรคประจำถิ่น ในที่สุด ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการ univeral protection ยังคงเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะช่วงที่กำลังมีการระบาดในวงกว้าง เพื่อชลอการระบาดไม่ให้รวดเร็วเกินไป ให้ดำเนินการตามมาตรการ คัดการด้วย ATK ก่อน และสามารถแยกกักที่บ้านได้หากไม่มีอาการและไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ
การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 เป็นหน้าที่ของทุกคน
#ค้นให้ตรงเป้า เฝ้าให้ตรงจุด ร่วมใจฉีดวัคซีน เข้าสู่โรคประจำถิ่น
28 เมษายน 2565 เวลา 06.30 น.